วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

เทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC


เทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC


เหมาะสำหรับ: ผู้ที่กำลังเตรียมตัวสอบ TOEIC
หมายเหตุ: ใครที่ต้องการก๊อปปี้ไปแปะที่อื่น ขอบอกว่า "ยินดี" แต่ช่วยให้เครดิตด้วย นะครับ
ไม่ว่าจะเป็นนิสิตนักศึกษาที่กำลังใกล้จะเรียนจบและต้องเริ่มสมัครงานหรือหนุ่มๆ สาวๆที่กำลังจะสมัครแอร์หรือ สจ๊วตก็ตาม คงจะรู้จักการสอบ TOEIC ไม่มากก็น้อย แต่หากใครที่ไม่เคยแล้วคิดว่าตัวเองอาจต้องใช้ละก็มาอ่านทางนี้ก่อน

ข้อสอบ TOEIC

TOEIC หรือ Test of English for International Communication เป็นแบบทดสอบภาษาอังกฤษสมิทธิภาพ (English Proficiency Test) ที่ใช้วัดทักษะความสามารถที่ผู้สอบมีอยู่ และสามารถนำไปปรับใช้ได้ในขณะนั้น โดนที่ใช้วัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา จักทำขึ้นโดยสถาบัน Educational Testing Service (ETS) ที่เมืองพริ้นส์ตัน รัฐนิวเจอร์ซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งองค์กรชั้นนำในด้านการพัฒนาแบบทดสอบอย่างเช่น TOEFL, GMAT, GRE, SAT เป็นต้น
ลองทำข้อสอบ TOEIC ONLINE (GRAMMAR)
ชุดที่ 1 คลิ๊กที่นี่ 
(20 ข้อ เวลา 20 นาที ข้อสอบเป็นแบบสุ่มข้อ สุ่มตัวเลือก)
ชุดที่ 2 คลิ๊กที่นี่ (30 ข้อ เวลา 30 นาที ข้อสอบเป็นแบบสุ่มข้อ สุ่มตัวเลือก)
ผู้ที่จำเป็นต้องสอบ TOEIC คือ นิสิตนักศึกษาที่กำลังจะสมัครงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ และจำเป็นต้องยื่นคะแนนความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษประกอบ ผู้ที่กำลังเตรียมตัวสมัครเป็นสจ๊วต หรือ แอร์โฮสเตส และผู้ทำงานในหน่วยราชการและองค์กรธุรกิจ สายการบินต่างๆทั้งในส่วนของงานทางด้าน Flight Attendant หรือว่าจะเป็นงานทางด้านภาคพื้นดิน การสมัครงานในส่วนของโรงแรม และบริษัทที่มีผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติ โดยผู้ที่ต้องใช้ยื่นคะแนนประกอบการเข้าศึกษาต่อสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศได้ด้วยผลคะแนน TOEIC มีอายุ 2 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับองค์กรหรือบริษัทที่เข้าไปสมัครงานว่า ทางนั้นกำหนดไว้กี่ปีหรือกี่เดือน

ลักษณะของข้อสอบ TOEIC

อย่างแรกที่ควรรู้คือ ง TOEIC ไม่มีติดลบ ติดศูนย์ หรือ ได้คะแนนเต็ม คะแนนข้อสอบ TOEIC จะอยู่ในช่วง 10-990 โดยแบ่งเป็นคะแนนการฟัง 5 – 495 และคะแนนการอ่าน 5- 495 ข้อสอบ TOEIC มีทั้งหมด 200 ข้อ แบ่งเป็น 2 ส่วน
ข้อสอบ TOEIC ในส่วนที่ 1 คือส่วนของการฟัง (Listening)
Listening Section
Parts
Questions
Time
Part I:  Picture
Part II: Question-Response
Part III : Short Conversations
Part IV: Short Talks
20
30
30
20

45 minutes
100
45 minutes
ข้อสอบ TOEIC ในส่วนที่ 2 คือส่วนของการอ่าน (Reading)
Reading Section
Parts
Questions
Time
Part I:  Incomplete Sentence
Part II: Error Recognition
Part III : Reading Comprehension
40
20
40

1 hour and 15 mins.
100
1 hour and 15 mins.
รายละเอียดของข้อสอบ TOEIC ในแต่ละ Part และ Trick ในการทำข้อสอบ
Listening Section
Part I:  Picture ให้จะมีรูปมาให้ดูและให้เลือกบทบรรยายเพียงข้อเดียวจากตัวเลือก 4 ข้อ ที่สอดคล้องกับรูปภาพมากที่สุด สำหรับข้อสอบ Part นี้นั้นผู้สอบต้องสังเกตรูปภาพดีๆ และตั้งใจฟังตัวเลือกเท่านั้น  Part นี้ไม่ค่อยยากเท่าไหร ่เพราะถ้าฟังออกก็จะสามารถตอบได้ทันที ว่าตัวเลือกไหนที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น
TOEIC
ตัวเลือกที่นำมาให้ฟังก็จะประมาณนี้คือ
  1. Some passengers are boarding the plane.
  2. The plane is leaving the runway.
  3. One plane is parked on the runway.
  4. The airport has been shut down.
จากตัวอย่างจะเห็นว่าข้อสอบ Part นี้ จะทดสอบความเข้าใจภาษาอังกฤษพื้นฐานเท่านั้น และตัวเลือกที่ให้มาค่อนข้างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
Part II: Question-Response เป็นแบบถามตอบ ที่ไม่มีทั้งโจทย์ทั้งตัวเลือก (ที่ต้องเลือก 3 ข้อ) ดังนั้นต้องอาศัยทักษะการฟังล้วนๆ Trick ก็คือจดคำถามลงในกระดาษข้อสอบ TOEIC ของเรา ว่าเค้าถามว่า จากนั้นก็ฟังตัวเลือกแล้วเลือกที่ตรงกับคำถามมากที่สุด Part นี้ก็เป็นอีก Part หนึ่งที่ได้คะแนนค่อนข้างง่าย เพียงแค่ฟัง Keywords สำคัญให้ดีๆ ซึ่งคำถามที่น่าจะเป็นไปได้ใน Part นี้จะขึ้นต้นด้วย Who, What, Where, When, Why หรือ How แค่ฟังว่าเค้าต้องการจะรู้อะไรแล้วตอบให้ตรงเท่านั้น ตัวอย่างเช่น
ถ้าได้ยินว่า How did your job interview go? (สัมภาษณ์งานเป็นยังไงมั่ง) ก็น่าจะพอเดากันได้ว่าคำตอบของคำถามอย่าง How (อย่างไร) นั้นน่าจะบอกว่า ดี แย่ หรือ งั้นๆ เป็นต้น เสร็จแล้วพอได้ยินตัวเลือกก็เพียงแค่ฟังคำตอบที่น่าจะตอบคำถามได้ใกล้เคียงที่สุด
  1. I took the train.
  2. It was good. I got the job.
  3. The viewing period is until ten’ o clock
จากตัวเลือกที่ให้มาจะเห็นว่าคำตอบที่ถูกต้องที่สุดคือ ข้อ 2 เพราะตอบคำถาม How ได้เหมาะที่สุด ต่างกับอีกสองตัวเลือก
Part III: Short Conversations และ Part IV: Short Talks 
Part III เป็นการฟังบทสนทนา ส่วน Part IV เป็นการฟังเนื้อเรื่องประมาณ 6-8 เรื่อง  Trick ในการทำข้อสอบนี้ก็มีเพียงสามข้อเท่านั้น อย่างแรกคือ  ต้องมีสติ!! อย่าเพียงวิตกว่าจะฟังไม่ทัน อย่างสองก็คือ อ่านตัวเลือกที่ให้มาก่อน อย่างที่สามก็คือ จด Keywords หรือใจความสำคัญที่ได้ยินลงไป ตัวอย่างเช่น
W: I want to travel with my dog to Japan
M: You’ll need the animal’s medical record.
W: I’ll have it ready soon. Where is Mr. Joe’s phone number?
Who should she consult before she travels?
  1. A police officer
  2. A lawyer
  3. A veterinarian
  4. A mechanic
เพียงแค่จด keywords สำคัญ อย่างเช่น  travel, dog, animal’s medical record ก็จะทำให้ทราบคำตอบที่น่าจะเป็นได้ของข้อนี้ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับสัตว์ การเดินทาง ประวัติการรักษา ซึ่งก็มีเพียงข้อเดียวคือ ข้อ 2 a veterinarian หรือ สัตวแพทย์นั่นเอง
Reading Section
Part I:  Incomplete Sentence เป็นข้อสอบเติมคำที่ต้องการทดสอบความรู้ทางด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ ซึ่งทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คำ ไม่ว่าจะเป็นคำสรรพนาม บุพบท คำเชื่อม คำคุณศัพท์หรือแม้คำวิเศษณ์ให้เหมาะสม อีกทั้งยังทดสอบว่าผู้สอบรู้คำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ ในเอกสารทางวิชาการมากแค่ไหน ตัวอย่างเช่น
The shortage of manpower available, the construction of the 5 kilometer tunnel went, ahead, and was successfully completed last month in accordance with all contractual conditions.
  1. As far as
  2. In spite of
  3. So far
  4. Although
อย่างแรกอ่านคำตอบก่อน จะเห็นได้ว่าคำตอบเป็นคำเชื่อม จากนั้นก็กลับไปคำถามเกี่ยวกับอะไร และวิเคราะห์คำตอบที่น่าจะเป็นไปได้ โดยดูจากรูปประโยค อย่างแรกที่สังเกตเห็นได้คือ มีวลี the shortage of manpower available แล้วค่อยตามด้วยประโยค the construction of …(คำกริยา went, was) ดังนั้น น่าจะพอเดาได้ว่าคำเชื่อมที่น่าจะใช่ต้องเป็นคำเชื่อมระหว่างวลีกับประโยค ทำให้ตัด although และ so far ได้ทันทีจากนั้นก็มาดูความหมายของประโยคว่าเป็นอย่างไร จะเห็นได้ว่าประโยคมีใจความขัดแย้งกัน “ขาดคนงาน” “การก่อสร้างสำเร็จสุล่วงไปด้วยดี” ดังนั้นก็จะได้ข้อที่ถูกต้องคือ In sprite of (มีความหมายว่า ถึงแม้ว่า ต้องตามด้วยวลีเท่านั้น)
Part II: Error Recognition เป็นข้อสอบ TOEIC ในส่วนที่ต้องการทดสอบความรู้ทางด้านไวยากรณ์เช่นเดียวกับ Incomplete Sentence เพียงแต่ว่า Part นี้จะส่วนที่ผิดจะซ่อนตัวอยู่ในประโยคที่ให้มา โดยในหนึ่งประโยคจะมีส่วนที่ขีดเส้นใต้ 4 จุดด้วยกันแต่มีเพียงจุดเดียวเท่านั้นที่ผิด หากต้องการทำข้อสอบส่วนนี้ให้ได้คะแนนดีๆ ต้องหัดช่างสังเกตเข้าไว้ พร้อมทั้งฝึกทำบ่อยๆ เพราะ บางข้อจะผิดแค่จุดเล็กๆ อย่างเช่นเติม s ไม่เติม s หรือใช้คำนามแทนที่จะใช้คำกริยา เป็นต้น อีกทั้งข้อสอบส่วนนี้มักจะออกรูปแบบ ไวยากรณ์หลักค่อนข้างตายตัว ดังนั้นถ้าฝึกทำบ่อยๆ ก็จะเจอรูปแบบไวยากรณ์ที่ผิดซ้ำๆ และมองหาข้อผิดได้ง่ายไวขึ้นแต่ถ้าไม่รู้จริงๆ การตัดตัวเลือกที่ถูกออกก็จะช่วยในการตัด choice ได้พอสมควร ตัวอย่างเช่น
This morning, I would like us to discuss about our new invoicing procedure, and
I invite you to share any accounting problems you’ve been having.
พออ่านข้อนี้จบหลายคนคงจะงงว่ามันผิดตรงไหน(วะ) ? เอาเป็นว่าถ้าไม่รู้ว่าผิดตรงไหนก็ได้เวลาตัด Choice เอาแล้ว Choice ที่น่าจะตัดได้อย่างสบายใจคือ would (ใช้กับ like เป็นการเชื้อเชิญตามภาษาคนมีมารยาทเป๊ะๆ)  และ you ( you มีรูปเดียวไม่ว่าจะเป็นประธานหรือกรรมของประโยคก็ตาม)
จากนั้นก็มาดู choice ที่เหลือ อย่าง discuss about และ accounting ว่าข้อไหนน่าจะถูก
ข้อสงสัยที่น่าจะเป็นไปได้คือ discuss ใช้กับ about ใช่ไหม และ accounting นี่เติมหน้าคำนามแบบนี้รึเปล่า แต่ถ้าใครเคยได้ยิน accounting department ละก็ คงตัดคำว่า discuss about แบบลังเลๆ ก็คงคิดว่า discuss about น่าจะผิดตรงไหนสักแห่ง ซึ่งก็เป็นคำตอบที่ผิดจริงๆ เพราะ discuss นั้นตามด้วยสิ่งที่ต้องการหารือได้เลย ไม่ต้องใช้ about  แม้แต่นิดเดียว
Part III : Reading Comprehension นั้นให้อ่าน choice ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อยไปหาข้อมูลที่ต้องการใน passage
ความยากของข้อสอบ TOEIC ส่วน Reading ก็คือ มีเวลาเพียง 75 นาทีในการทำข้อสอบ 100 ข้อ เท่ากับมีเวลาทำข้อสอบข้อละไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำแถม ดังนั้นเมื่อถึงเวลาทำข้อสอบ part นี้ คือ
  • ทำข้อที่ทำได้ก่อน ข้อไหนทำไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน ไม่ควรเสียเวลานั่งคิดให้ปวดสมอง
  • ถ้ารู้ตัวว่าไม่แม่นแกรมม่าอย่างแรงให้ข้ามไปทำส่วน Reading Comprehension ก่อนเพราะอย่างน้อยยังสามารถจับใจความ หาตัวเลือกที่ถูก หรือแม้กระทั่งเดาตัวเลือกที่น่าจะเป็นได้มากกว่า เพราะคำตอบอยู่ตรงหน้าแล้ว ไม่ต้องมานั่งนึกอย่างข้อสอบ Reading สองส่วนแรก

การเตรียมตัวก่อนไปสอบ TOEIC

  1. ทำความคุ้นเคยกับการฟังภาษาอังกฤษ ผ่านสื่อต่างๆ เช่น การดูข่าว (บ้านใครมี True Vision ก็ลองเปิด CNN หรือ BBC ดู แต่ถ้าไม่มีก็ เปิดช่อง 9 วันธรรมดาตอนประมาณสี่ทุ่มจะมีรายงานข่าวเป็นภาษาอังกฤษ) การดูหนัง (ซื้อ DVD มาแล้วปิด subtitle)
  2. อ่านข่าวเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางเว็บไซด์อย่าง www.reuters.com , www.theonion.com, www.thenation.com เป็นต้น
  3. ฝึกทำข้อสอบทั้งสอง part เป็นประจำ เพราะการทำข้อสอบให้ได้คะแนนเยอะๆ นั้นต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นประจำ
  4. เพิ่มพูนคำศัพท์ด้วยการหาศัพท์ในข้อสอบที่ทำไปแล้ว เพราะคำศัพท์ที่ออกในข้อสอบนั่นแหละผู้สอบจะเจอในข้อสอบบ่อยๆ
วันก่อนไปสอบ TOEIC ควรนอนให้พอ เพราะผู้สอบต้องใช้สมาธิในการทำข้อสอบ หากเผลอหลับไปก็อาจจะทำข้อสอบไม่ทันได้ ยังไงก็ขอให้ทุกท่านโชคดีในการสอบ TOEIC ที่กำลังจะมาถึงนี้นะคะ
เรียน TOEIC และติวข้อสอบTOEIC กับสถาบัน Acknowledge ซึ่งเป็นสถาบันที่สอน TOEIC แบบเรียนกลุ่มเล็ก หรือติว TOEIC ตัวต่อตัว พร้อมกับแนวข้อสอบ TOEIC ให้ฝึกทำ พบกับคำตอบสุดท้ายของการหาที่เรียน TOEIC ที่ไหนดีที่สุด...แล้วเจอกันนะครับ


ที่มา :    http://www.acknowledge-centre.com/TOEIC-preparation.html

1 ความคิดเห็น:

กด LIKE แล้วติดตามการอัพเดตได้ในหน้าแรกFACEBOOK ตลอด

ร่วมกดไลค์เพื่อแชร์ไปให้เพื่อนๆทุกคน