วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

ทดสอบความพร้อม GAT เชื่อมโยง ก่อนสอบ


กินอะไรทำให้อารามณ์ดี
..........................................................................
ช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจมี่ ค้าขายไม่คล่อง คนตกงานกันเยอะ อากาศก็ร้อนมากกว่าทุกๆปี ทำให้ผู้คนทั้งหลายหงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี แถมบรรยากาศทางการเมือง ยังคุกกรุ่นไปด้วยความขัดแย้ง ดูแล้วบ้านเมืองเต็มไปด้วยความทุกข์ ทำยังกันดีล่ะครับ ประชาชนถึงจะหาทางออกได้ ต้องพึ่งพาอาศัยรัฐบาลกันดีไหม แต่อย่าดีกว่าครับ ปล่อยให้รัฐบาลท่านทำงานของท่านไปให้ดีก็แล้วกัน ให้เอาตัวให้รอดก่อนนะครับ
เมื่ออาทิตย์ก่อนผมไปทำธุระที่โรงพยาบาลพญาไทย1 ในระหว่างที่นั่งรอหมอ ก็ได้หยิบหนังสือของโรงพยาบาลขึ้นมาเล่มหนึ่ง พลิกไปเจอบทความเรื่อง   อาหารที่ทำให้อารมณ์ดี(3)  น่าสนใจมากครับ ผมนึกถึงบรรยากาศบ้านเมืองและเศรษฐกิจจะเป็นเช่นนี้ น่าจะเป็นทางออกให้คนบ้านเราได้ ผมขอเล่าโดยสรุปก็แล้วกันนะครับ
บทความเรื่องนี้ บอกว่าสถาบันวิจัยอาหารในภาคใต้ของอังกฤษพบว่า  อาหารเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก โดยมีผลอย่างรวดเร็วต่อความตื่นตัว ว่องไว ระดับพลังงาน ความจำและสมาธิ ทั้งยังสามารถช่วยลดความซึมเศร้าได้ สารอาหารที่เราได้กันเข้าไป จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์และการทำงานด้านจิตใจของคนเรา
  คาร์โบไฮเดรตทำให้เกิดความสงบ สบาย โปรตีน ทำให้ตื่นตัวว่องไว(9)
เห็นไหมครับ อาหารมีส่วนกระตุ้นสมองและอารมณ์ สมองเป็นศูนย์บัญชากากรของร่างกาย มีเซลล์นับพันล้านเซลล์ เชื่อมต่อกันเป็นวงจน สลับซับซ้อน มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปตามเซลล์ประสาทหนึ่งไปสู่อีกเซลล์หนึ่งโดย สารสื่อ 2 ชนิดคือ โดปามีน ( Dopamine) และโรโทนินิ (Serotonin)
โดปามีน(6) มันคือสารเคมีทางสมองที่ได้มาจากอาหารโปรตีน ซึ่งมีผลในการกระตุ้นเซลล์สมองให้มีสมาธิ และความว่องไว ส่วนเซโรโทนิน(10) มันคือสารเคมีในสมองที่ได้มาจากอาหารคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีผลทำให้สมองเกิดความสงบ(2) ระงับและบรรเทาความเครียด วิตกกังวล ไม่รู้สึกหงุดหงิด ว้าเหว่ เศร้าซึม สับสน ลืมง่าย หรือโมโหร้าย
คราวนี้ท่านคงอยากรู้แล้วใช่ไหมว่า สารทั้ง2 ชนิดนี้มันอยู่ในอาหารอะไรบ้างล่ะ ผมขอสรุปได้ดังนี้
ปลาแซลมอน(1) มีโอเมก้า ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง(4)
2 ปลาแม็กคาเรล มีโอเมก้า3 (7) มาก
3 น้ำมันคาโนลา มีวิตามินอีสูง
ผักโขม(8) มีโฟเลตสูง
5 ถั่ว่สดมีโฟเลตสูง
ไก่(5)  มีโปรตีนสูง

เฉลยข้อสอบ


1  06D  07D  10D
2 99h
3 01D   05D    08D
4 99H
5 06D    10D
6 09A
7 04F
8 06D    10D
9 99H
1
0 02A
ข้อที่ 2  เซลล์กระจกเงากับพฤติกรรมในเด็ก
หากได้ติดตามข่าวสารสื่อสารมวลชน หลายคนคงจะหนักใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็ก เยาชวนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขาดคุณธรรม-จริยธรรม(5)   พฤติกรรมก้าวร้าว(11)ในเด็ก  การเลียนแบบพฤติกรรมของต่างประเทศ(8) ไม่ว่าจะเป็นภาษา การแต่งกาย พฤติกรรมทางเพศ จนทำให้ภาพของเยาวชนไทยในสายตาผู้ใหญ่ติดลบ
จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ด้านสมองพบว่าสิงที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับเรื่อง  เซลล์กระจกเงา  ซึ้งคนสำหรับคนไทยแล้วถือว่าเป็นนวัตกรรรมใหม่ หลายคนคงจะสงสัยว่าเซลล์กระจกเงาที่ว่าคืออะไร แล้วทำไมจะต้องนำเรื่องนี้มาพูดถึง และมันเกี่ยวข้องกับปัญหาพฤติกรรมของเยาชนไทย(6)อย่างไร
รายงานกล่าวว่า เซลล์กระจกเงาคือเซลล์ชนิดหนึ่งในสมองของคนเรา มีหน้าที่ทำความเข้าใจกับท่าทีของผู้อื่นด้วยการลอกเลียนแบบ ( imitation) ในสมอง แล้วนำความเข้าใจนั้นมาปรับเป็นนิสัยหรือบุคลิกภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นนิสัยการรักเรียนรู้ นิสัยความเป็นไทย และนิสัยการยึดมั่นในคุณธรรม-จริยธรรม ทั้งหมดเกิดจากการทำงานของเซลล์กระจกเงาทั้งสิ้น
สำหรับสามเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรมต่างๆ กับเยาวชนไทย มี 3 ประการ ประการแรก เนื่องจากปัจจุบันพ่อแม่ขาดทักษะในการเลี้ยงลูก และทักษะความเป็นพ่อแม่(7)   สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากครอบครัวไทยเป็นครอบครัวเดี่ยว(3)มากขึ้น ทำให้พ่อแม่รุ่นใหม่จึงไม่ได้ซึมซับ/เรียนรู้ในเรื่องทักษะของการเป็นพ่อแม่จากคนรุ่นก่อน และการศึกษาไทยก็เน้นการสอนเพื่อไปประกอบอาชีพ  ไม่ได้สอนความเป็นพ่อแม่ให้กับคนรุ่นใหม่

ประการที่ 2 การศึกษาของไทยทุกระดับขาดคุณภาพ(9) เนื่องจากการศึกษาของไทยเน้น การเรียนรู้แบบสอนสั่ง(10) หรือการป้อนความรู้ ละเลยการสอนเพื่อให้เกิดนิสัยในการแสวงหาความรู้ รักในการอ่านและขาดกระบวนการอบรมกล่อมเกลา ทำให้ครูหันมาใช้วิธีสอนแบบเดียวกัน คือ การสอนสั่ง

ประการสุดท้าย สังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องคุณธรรม(1)   ทั้งของเด็ก  เยาวชน  และผู้ใหญ่ สาเหตุเกิดจากระบวนการปลูกฝังคุณธรรมที่เน้นการสอนสั่ง(4)  ไม่สนใจการสอนผ่านแบบอย่าง  ไม่ตระหนักในผลเสียของแบบอย่างที่ไม่ดีที่มีต่อเด็กและเยาวชน  ซึ่งเรื่องเซลล์กระจกเงานี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งสิ้น

การเลียนแบบของเซลล์กระจกเงามี  2 แบบ คือ แบบอัตโนมัติ เช่นเมื่อเห็นคนหาวก็เกิดอาการหาวตาม    แบบตั้งใจ ตัวอย่างเช่น  การเลียนแบบการแต่งกายของดารานักแสดงต่างประเทศ  และ แบบจิตใต้สำนึก
     ผลจากการทำงานของเซล์ กระจกเงา  ทำให้เกิดการเรียนรู้ ที่เกิดจากการให้แบบอย่าง การหล่อหลอมนิสัย และบุคคลิกภาพ การพัฒนาด้วยคุณธรรมและกสังคมการพัฒนาความมานะอดทนและการพัฒนาทักษะทางสังคม

ซึ่งความรู้เรื่งเซลล์กระจกเงา (2) จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยอย่างมาก  ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะความเป็นพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่ตระหนักในการเป็นต้นแบบให้ลูก  และปรับปรุงวิธีการสอนลูกให้มีประสิทธิภาพ, การพัฒนาระบบการจัดการศึกษา ที่เน้นการเรียนรู้จากแบบอย่าง  ปรับวิธีการสร้างนิสัยที่ดีด้วยการสร้างต้นแบบที่ดีให้เด็ก,  การพัฒนากระบวนการปลูกฝังคุณธรรมในสังคมไทย, ผู้ใหญ่ตะหนักในการเป็นต้นแบบ ที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชน และมีความตระหนักในการป้องกันต้นแบบที่ไม่ดีให้ห่างจากเด็ก ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะต้องหันกลับมาตระหนักในเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง

เฉลย
1 06a
2 01f  07f  09f
3  07f
4 01a
5 99a
6 05d  08d  11d
7  06a
8 99h
9 06a
10 09a
11 99h

ข้อสอบข้อนี้นำมาจาก หนังสือติวเข้ม GAT สำนักพิมพ์ พศ พัฒนา ขอขอบคุณมาณ ที่นี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กด LIKE แล้วติดตามการอัพเดตได้ในหน้าแรกFACEBOOK ตลอด

ร่วมกดไลค์เพื่อแชร์ไปให้เพื่อนๆทุกคน